ในศึก เฮลอินเอเซล (2014) จอห์น ซีนา ได้เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ในแมตช์เฮลอินเอเซล และได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE World Heavyweight Championship กับ บร็อก เลสเนอร์ ต่อมาในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2014) ซีนาเอาชนะเซท โรลลินส์ ในแมตช์จับฟาดใส่โต๊ะ และป้องกันสิทธิ์การเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ได้สำเร็จ ในรอว์ (5 มกราคม 2015) ทริปเปิล เอช กับ สเตฟานี แม็กแมน ได้ประกาศให้ เซท โรลลินส์ เข้าร่วมชิงแชมป์ WWE World Heavyweight Championship เป็นแมตช์สามเส้า[4]

ในทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ เรนส์ได้รีเทิร์นกลับมาปล้ำอีกครั้ง โดยออกมาในช่วงท้ายแมตช์ของ จอห์น ซีนา และเซท โรลลินส์ เพื่อจัดการกับ บิ๊กโชว์ ที่ออกมาอัดซีนา นอกจากนี้ เรนส์ยังออกตัวประกาศเป็นคนแรกด้วยว่า เขาจะร่วมปล้ำในแมตช์ รอยัลรัมเบิล[5] ในรอว์ (29 ธันวาคม 2014) แดเนียล ไบรอัน ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[6] ในเมนอีเวนต์ (6 มกราคม 2015) เจ้าของแชมป์ WWE United States Championship รูเซฟ ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[7] ในสแมคดาวน์ (9 มกราคม 2015) เบรย์ ไวแอ็ตต์ และเจ้าของแชมป์ WWE Intercontinental Championship แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[8] ในรอว์ (12 มกราคม 2015) ดีน แอมโบรส ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[9] ในเมนอีเวนต์ (13 มกราคม 2015) โกลด์และสตาร์ดัสต์ ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[10] ในสแมคดาวน์ (15 มกราคม 2015) บิ๊กโชว์ และ เคน ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[11] ในรอว์ (19 มกราคม 2015) อาร์-ทรูธ, เดอะมิซ และ แดเมียน มิซดาว ได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล[12] ในสแมคดาวน์ (22 มกราคม 2015) ได้มีการคัดเลือกผู้เข้าร่วม รอยัลรัมเบิล โดยดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ชนะแบด นิวส์ บาร์เร็ตต์, ไรแบ็ก ชนะฟาล์ว รูเซฟ, ลู้ก ฮาร์เปอร์ ชนะอีริก โรแวน และแดเนียล ไบรอันเอาชนะเคนไปได้ในแมตช์ไม่มีกฏกติกา ทำให้ไบรอันรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมรอยัลรัมเบิลได้สำเร็จ[13]